“ไบร์ท วชิรวิชญ์” เคลียร์ดราม่าลิขสิทธิ์เพลง ยก “บอล สครับบ์” เป็นไอดอล เจ็บสุดเจอคอมเมนต์ดูถูก
ก่อนหน้านี้นักร้อง นักแสดงหนุ่ม “ไบร์ท วชิรวิชญ์ ชีวอารี” เคลียร์เรื่องดราม่าลิขสิทธิ์ ที่ทางศิลปินหนุ่ม “บอล scrubb” (สครับบ์) ได้โพสต์ลอยๆ ว่าถูกนำเพลงไปเล่นที่ต่างประเทศโดยไม่ได้ขออนุญาตก่อนไปแล้ว แต่ก็ยังมีชาวเน็ตเข้าไปคอมเมนต์ถล่มไม่หยุด งานนี้หนุ่ม “ไบร์ท” เคลียร์อีกครั้งว่า...
อ่านข่าวต่อ : “ไบร์ท” เจ็บปวดหัวใจเจอคอมเมนต์แรงเรื่องลิขสิทธิ์ ชมเค้ก "เนเน่" อร่อย ฝากอุดหนุนร้านแฟน
“ดราม่าลิขสิทธิ์เพลง โดนหนักเหมือนกัน เจ็บปวดหัวใจมากเลย เข้าไปอ่านคอมเมนต์แล้วก็แบบ...เนี่ย ไม่แปลกใจเลย ถ้าคนนี้จะทำผิด ซึ่งพอผมเห็นข่าวนี้ ผมก็มีการรีเช็กกับทางเขา ซึ่งทางเขาได้ทำถูกตามขั้นตอนหมดแล้ว ซึ่งวิธีการทำงานของญี่ปุ่นจะเป็นแบบนี้คือเราส่งเพลงไปขอลิขสิทธิ์กับทางผู้จัดเก็บลิขสิทธิ์ แล้วเราก็เล่นให้เสร็จ แล้วก็จะได้เอกสารแอปปรู๊พมาในส่วนของที่พี่บอลโพสต์ ผมไม่มีโอกาสได้อ่านเพราะมันทำให้เกิดการเข้าใจผิด แต่ในส่วนของผม การทำงานคอนเสิร์ตที่ญี่ปุ่น เราทำได้อย่างถูกต้อง ตกใจกับดราม่าผมชื่นชมพี่ๆ เขามากเลย เล่นเพลงของพี่ๆ เขาอย่างมีความสุขมาตลอด ก็ไม่คิดว่าจะโดนโพสต์แบบนี้ ผมคิดว่าเป็นเรื่องเข้าใจผิด
กับคำว่าคอมเมนต์ที่บอกว่า ‘ไม่มีมารยาท’ ผมโดนไอดอลว่าอะพี่ก็นิดนึง แต่ก็เป็นความเข้าใจผิดไม่เป็นไร ผมไม่ได้ยึดติดอะไร แล้วตอนนี้ก็คิดว่าทุกคนน่าจะได้ข้อมูลที่ถูกต้องในการขอลิขสิทธิ์แล้วกับพี่บอลยังไม่มีโอกาสได้คุย แต่ว่าเจอกัน ยินดีคุยได้ตลอด ยังเป็นพี่น้องเสมอ ยังนับถือแน่นอน เป็นไบร์ทอีกแล้ว ผมรู้สึกว่าผมเสียหาย แต่ว่าบริษัทผมและตัวผม โดนด่าเสียหาย ผมรู้สึกว่ามันไม่ถูกต้อง ที่ผมจะไม่ได้พูดสิ่งนี้และข้อมูลที่ถูกต้องกับทางสังคมหรือคนในวงการเพลง ว่าจริงๆ สิ่งที่ผมทำ มันถูกต้องตามขั้นตอนแล้ว หยิบจับทำอะไรก็ผิดไปหมดด้วยความที่ผมทำอะไรเยอะด้วยมั้งทำงานหลายพาร์ต ทำธุรกิจหลายอย่าง แล้วก็กำลังทำในฟีลใหม่ๆ ตลอด เป็นเรื่องใหม่เสมอเพราะฉะนั้นปัญหามันเกิดขึ้นได้ตลอด สิ่งที่ผมต้องทำคือใช้ชีวิตให้มีสติ แก้ปัญหาไปทีละวันๆ ผมสนุกมากเลย รู้สึกว่างานผมมันเติมเต็มความเป็นผม ทำให้ผมมีไฟ มันชาเลนจ์ชีวิต ผมมีความสุข
คอมเมนต์แรงๆ จะมีการฟ้องร้องส่วนตัวผมเห็นมาเยอะแล้ว แต่อันนี้จะเป็นเรื่องของทีมมากกว่า ว่าคอมเมนต์ไหนมันสร้างความเสียหายต่อตัวผมหรือบริษัท ที่เราจะต้องรักษาภาพลักษณ์ก็อาจจะต้องมีการฟ้องร้องเกิดขึ้น แต่ก็ให้ทีมเป็นคนพิจารณา แต่เขาก็ทำงานกันอยู่ ผมจะเสียใจเวลาบอกว่า บริษัทนี้ทำงานพลาด ก็ไม่แปลกหรอก คือผมตั้งใจทำงาน แล้วทีมงานผมมืออาชีพทุกคน ทุกๆ คนคือเป็นคนที่คร่ำหวอดในวงการจริงๆ การที่ถูกพิมพ์แบบนี้ หรือการที่ถูกสบประมาทว่าพวกเราทำงานไม่มืออาชีพ เหมือนโดนเหยียบหน้า ผมเจ็บ เหมือนลูกผมโดนด่า ว่าทำไมเลี้ยงลูกอย่างนี้ ทีมงานและคนรอบข้างให้กำลังใจทุกคนเข้าใจกัน ผมรู้สึกว่าเราเป็นทีมเดียวกันมาก เป้าหมายเราตรงกัน ทุกๆ วันที่มาทำงานมันฟลูฟีล ถ้าเป็นทีมฟุตบอลเราจะเป็นทีมที่สามัคคี แฮปปี้มาก”